สิ่งที่พ่อแม่กลัว เมื่อลูกรู้จักกับอินเทอร์เน็ต

เด็กสมัยนี้สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ง่ายกว่าสมัยก่อนเยอะ ยิ่งพ่อแม่ที่ปล่อยให้ลูกอยู่กับโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ลำพัง ยิ่งเสี่ยงต่อการเข้าถึงอะไรที่ไม่เหมาะสม เช่นดูคลิปหลุด คลิปหลุด นอกจากเรื่องนี้ยังมีเรื่องของระยะเวลาให้กังวลด้วย เรามาดูกันดีกว่าว่าภัยร้ายยุคใหม่มีอะไรบ้าง
1. คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการทำงานในสมัยนี้ ยิ่งใช้งานได้เร็ว ก็ยิ่งเป็นประโยชน์ แต่มันก็เต็มไปด้วยข้อเสียเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแสงที่กระทบกับดวงตาของเด็กโดยตรง ถ้าปล่อยให้ใช้คอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลานาน แน่นอนว่าสายตาเสียแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ รวมถึงท่านั่งก็มีส่วนสำคัญ เด็กที่ใช้งานคอมพิวเตอร์นาๆน มีโอกาสเกิดกระดูกสันหลังคด หรือกระดูกสันหลังเบี้ยวได้ง่าย เรื่องจากกระดูกยังอ่อน การนั่งใช้งานคอมพิวเตอร์ จึงต้องนั่งอย่างถูกต้อง ท่าทางเหมาะสม รวมถึงใช้งานในระยะเวลาที่เหมาะสมด้วย ซึ่งในวัยเด็ก ไม่ควรใช้งานเกินครั้งละ 1 ชั่วโมง จะได้มีเวลาทำการบ้านหรือทำกิจกรรมอื่นๆ ระวังลูกแอบดูคลิปหลุดด้วยล่
2. โทรศัพท์ เรามักจะเห็นเด็กสมัยนี้ถือโทรศัพท์ติดมือกันอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นตามรถไฟฟ้า หรือตามห้าง ร้านอาหาร ก็มักจะมีเด็กถือโทรศัพท์แล้วเปิดยูทูปดูเสมอ ถึงจะเป็นภาพที่เห็นได้บ่อยๆ ก็ใช่ว่ามันจะถูกต้อง เพราะหน้าจอโทรศัพท์ปล่อยแสงสีฟ้าออกมา ซึ่งมันทำร้ายดวงตาได้แม้จะใช้งานไม่นาน ดวงตาจะล้ามากกว่าปกติ เด็กในวัยไม่ถึง 10 ปีอาจจะได้รับผลกระทบมากกว่าผู้ใหญ่เนื่องจากตายังอ่อนแอ และที่สำคัญโทรศัพท์ยังเป็นช่องทางง่ายที่สุดในการดูคลิปหลุด พ่อแม่คนไหนที่ให้ลูกเล่นโทรศัพท์แต่ไม่ดูแลอย่างใกล้ชิด ต้องระวังการเข้าถึงสื่อเอาไว้ด้วย ทางที่ดี บล็อกคำค้นหาเหล่านี้เอาไว้ก็ช่วยได้ส่วนหนึ่ง
3. เครื่องถ่ายเอกสาร ใครบอกว่าอันตรายจะอยู่ในรูปแบบของออนไลน์อย่างเดียว อุปกรณ์ที่เราใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์ก็ต้องระวัง เครื่องถ่ายเอกสารคืออุปกรณ์ที่ใช้รังสีในการถ่ายทอดต้นฉบับลงไปสู่กระดาษเปล่า และผงหมึกของมันยังทำให้เด็กเกิดอาหารแพ้ได้ง่าย รังสียูวีที่แผ่ออกมาจากเครื่องก็อันตรายต่อดวงตาของเด็ก ทางที่ดีหลีกเลี่ยงการพาเด็กเข้าใกล้เครื่องถ่ายเอกสารเอาไว้
4. หูฟัง การเสพสื่อออนไลน์สิ่งที่มักจะใช้คู่กันคือหูฟัง เพราะมันทำให้เราสามารถฟังเสียงได้แบบเป็นส่วนตัว และยังไม่รบกวนคนรอบข้างเวลาอยู่ในที่สาธารณะ โดยเฉพาะจอนดูคลิปหลุด แต่หูฟังแบบใส่เข้าไปในหู สามารถทำลายแก้วหูของเด็กได้ เนื่องจากคลื่นเสียงที่ส่งเข้าไปโดยตรง จะทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือน หูฟังที่เหมาะสมกับเด็ก คือหูฟังแบบครอบหู เพราะคลื่นเสียงจะไม่ได้เข้าสู่หูโดยตรง